วันเดินทางไป - กลับ | ผู้ใหญ่ท่านละ | พักเดี่ยวเพิ่มเงิน | ราคาเด็กท่านละ | |
---|---|---|---|---|
23 พ.ย. 67 - 01 ธ.ค. 67 | 65,850 บาท | 12,500 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
16.00 น. คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่เคาน์เตอร์เช็คอิน H ประตูทางเข้า 4 อาคารผู้โดยสารเคาน์เตอร์สายการบินไทย (TG) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
19.00 น. ออกเดินทางสู่กรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน โดยเที่ยวบิน TG 349 (ใช้เวลาบินประมาณ 5.10 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน
22.10 น. เดินทางถึงท่านอากาศยานกรุงอิสลามาบัด หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ศุลกากรเรียบร้อย (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าไทย 2 ชม.)
นำท่านเข้าโรงแรมที่พัก Hill View หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองชีลาส (Chilas) สายคาราโครัม ไฮเวย์ (Karakoram Highway) เส้นทางถนนที่สูงที่สุดในโลกที่เชื่อมระหว่างประเทศจีน และปากีสถาน ผ่านเทือกเขาคาราโครัมไปจนสุดเขตแดนที่ที่ราบคุนเจอราบ ในระดับความสูงที่ 4,693 เมตร เหนือระดับนํ้าทะเล ระหว่างทางชมความงามของ ทะเลสาบ และความเขียวชอุ่มของป่าไม้ที่ยอดเขาปกคลุมด้วยหิมะ
เที่ยง บริการการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย เมืองชีลาส (Chilas) เป็นเมืองที่มีแม่น้ำสินธุไหลผ่าน แม่น้ำสินธุเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในปากีสถาน และ เป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในโลกอันดับที่ 21 มักถูกพูดว่าเป็นเส้นชีวิตของชาวปากีสถาน ต้น กำเนิดของแม่น้ำอยู่บริเวณที่ราบสูงทิเบตใกล้กับทะเลสาบมานาซาโรวาร์ ความยาวรวมของแม่น้ำมีความ ยาว 3,180 กิโลเมตร และมีการไหลของน้ำมากกว่า 1,165,000 ตร.กม. อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ เป็นอารยธรรมในยุคสำริด (ประมาณ 2,500-1,900 ก่อนคริสตกาล) ถือกำเนิดขึ้นบริเวณลุ่มแม่น้ำสินธุในประเทศอินเดีย และปากีสถานใน ปัจจุบัน ถือเป็นอารยธรรมยุคแรกๆ ของโลก ซึ่งนักโบราณคดีเรียกว่ายุคฮารัปปัน วัฒนธรรมเก่าสุดเริ่มจากเมืองอัมรี (Amri) บริเวณปากแม่น้ำสินธุ อายุ 4,000 B.C. พบเครื่องปั้นดินเผาระบายสี คล้ายของเมโสโปเตเมียเมืองฮารับปา และโมเหนโจ - ดาโร อายุ 2,600 -1,900 B.C. เมืองชุคาร์ และจันหุดาโร อายุ 1,000 - 500 B.C.
ค่ำ บริการการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเข้าโรงแรมที่พัก Shangri La Chilas หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่าน ชมโขดหินจารึกภาพเขียนโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ของเมืองชีลาส (Chilas Rock Craving) ซึ่ง โขดหินจารึกเหล่านี้จะปรากฏให้เห็นเป็นระยะตลอดเส้นทางสายไหมเส้นทางที่เคยมีพ่อค้าวาณิชมากมายผ่านไปมา โดยที่เมืองนี้ถือว่าเป็นจุดศูนย์รวมโขดหินจารึกภาพโบราณที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มีการค้นพบ หลักฐานมากกว่า 20,000 ชิ้น เกี่ยวกับศิลปะโบราณ และภาพเขียน จากนั้นนำท่านเดินทางสุ๋เมืองคาริมาบัด (Karimabad) หรือที่รู้จักในอีกชื่อว่า เมืองบัลติท (Baltit) ตั้งแห่งหุบเขาฮุนซา (Hunza Valley) เป็นหุบเขาในเมืองกิลกิต (Gilgit Valle) ซึ่งอยู่ใน เขตปกครองพิเศษกิลกิต-บาลิสถาน (Gilgit- Baltistan) ดินแดนใต้ การปกครองของรัฐบาลปากีสถาน ซึ่งชาวบ้านในเมืองส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามนิกายอิสมาอิล
เที่ยง บริการการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเดินทางสู่ ฮุนซาวัลเลย์ (Hunza Valley) ตั้งอยู่ทางเหนือของแม่น้ำฮุนซา อยู่ในระดับ 2,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล โดยมี เมืองคาริมาบัด (Karimabad) เป็นเมืองใหญ่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับ จากความงดงามของทัศนียภาพที่โอบล้อมด้วยภูเขาสูง อีกทั้งยังมีต้นผลไม้มากมาย เช่นต้นแอพพิคอต ต้นเชอรรี่ และต้นแอปเปิ้ล ทั่วทุกแห่ง
ค่ำ บริการการอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเข้าโรงแรมที่พัก Hunza Darbar หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม ป้อมปราการบัลติท (Baltit Fort) ตั้งอยู่ในหุบเขาฮุนซาใกล้เมืองคาริมาบัดทางตอนเหนือของปากีสถาน ป้อมนี้สร้าง มาเมื่อกว่า 700 ปีก่อน และได้มีการสร้างใหม่และมี การเปลี่ยนแปลง ตลอดหลายศตวรรษ ในศตวรรษที่ 16 เจ้าชายท้องถิ่นแต่งงานกับเจ้า หญิงจาก Baltistan ที่นำนายช่างฝีมือบัลติในการบูรณะอาคารที่เป็น ส่วนหนึ่งของสินสอดของเธอรูปแบบสถาปัตยกรรมเป็นข้อบ่งชี้ที่ ชัดเจนจากอิทธิพลของพุทธศาสนาในทิเบต และ Baltistan ป้อมแห่งนี้ร้างในปี ค.ศ. 1945 และย้ายไปอยู่ที่พระราชวังใหม่ลงเนินเขา ป้อมเริ่มมีการพังและสลายตัวอาจต้องตกอยู่ในลักษณะซากปรักหักพัง ภายหลังจึงได้มีการสำรวจ โดย Royal Geographical Society จากลอนดอน และได้รับการสนับสนุนจาก the Aga Khan Trust for Culture Historic Cities Support Programme โปรแกรมเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1996 และป้อมปราการที่ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ สมควรแก่เวลา นำท่านชมตลาดการค้าพื้นเมือง (Karimabad Bazaar) ท่านจะได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของคนพื้นเมืองซึ่งส่วนใหญ่จะมีอาชีพปลูกผลไม้เมืองหนาว เช่น แอปเปิ้ล และแอปริคอท เนื่องจากอากาศในหุบเขาแห่งนี้จะมีอากาศเย็นตลอดทั้งปี อิสระให้ท่านได้ซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย
เที่ยง บริการการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเดินทางสู่ หุบเขาฮอปเปอร์ (Hopper Valley) เพื่อชม ธารน้ำแข็งฮอปเปอร์ (Hopper Glacier) เป็นธารน้ำแข็งที่มีความเก่าแก่จากการทับถมของหิมะอย่างยาวนาน จากหิมะจนกลายเป็นหินได้มีบันทึกว่าธารน้ำแข็งแห่งนี้เป็น เคลื่อนไหวเร็วที่สุดในโลก จุดที่เราจะเข้าไปชมนั้นจะเป็นจุดที่ใกล้ธารน้ำแข็งมากที่สุดซึ่งเราสามารถเข้าไปชมในจุดที่กำหนดเท่านั้น จากนั้นเดินทางสู่ หุบเขาดุยเกอร์ (Duiker Valley) นำชมวิวยามเย็น ชมความงามของพระอาทิตย์ตกดินท่ามกลางเทือกเขาสลับซับซ้อนสูงตระหง่านกว่า 6,000 เมตร เช่น ยอดเขาราคาโพชิ (Rakaposhi) 7,788 เมตร ยอดเขาดิรันพีค (Diran Peak) ยอดเขาโกลเด้นพีค (Gloden Peak) ยอดเขาอัลเทอร์พีค (Ulter Peak) ยอดเขาฮุนซาพีค (Hunza Peak) ยอดเขาเลดี้ฟิงเกอร์ (Lady Finger) และยอดเขาสูงอื่นๆ อีกจำนวนมาก
ค่ำ บริการการอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเข้าโรงแรมที่พัก Eagle Nest Hotel หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบอัตตาบัต สัมผัสประสบการณ์ล่องเรือชมทะเลสาบอัตตาบัต (Attabad Lake) เป็นที่รู้จักกันในชื่อ ทะเลสาบโกจาล (Gojal Lake) ชมความงดงามของทะเลสาบสีฟ้าราวกับเทอร์ควอยซ์ตัดกับเทือกเขาที่มีหิมะปกคลุม ทะเลสาบตั้งอยู่ในหุบเขาฮุนซา เกิดจากดินถล่มเพราะแผ่นดินไหวเมื่อปี 2009 ลงมาปิดกั้นการไหลของน้ำในแม่น้ำฮุนซาจึงเกิดเป็นทะเลสาบแห่งนี้ ทะเลสาบมีความยาว 21 เมตร และลึก 103 เมตร ทางการจีนได้ช่วยสร้างอุโมงค์ผ่านภูเขาเพื่อเชื่อมกับถนนคาราโครัมใหม่ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ทะเลสาบอัตตาบัดกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของปากีสถานเช่นกัน
เที่ยง บริการการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านชม ทะเลสาบบอริท (Borith Lake) เป็นทะเลสาบใน Gilgit-Baltistan ประเทศปากีสถาน Borith เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ในบริเวณรอบทะเลสาบ Borith ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของ Husseini หมู่บ้านใกล้ Gulmit, Gojal ใน Hunza ตอนบนความสูงของ Borith มีความสูงประมาณ 2,600 เมตร (8,500 ฟุต) เหนือระดับน้ำทะเล ได้เวลาอันสมควร นำท่านออกเดินทางสู่ หมู่บ้านพาสสุ (Passu) หมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่บนเส้นทางทางคาราโครัมตัดกับแม่น้ำฮุนซา ทางตอนใต้ของหมู่บ้านจะมีธารน้ำแข็งพาสสุ (Passu Glacier) ธารน้ำแข็งที่เกิดจากหิมะที่ตกมาสะสมจนหนา 50-60 เมตร แล้วเคลื่อนตัวลงมาตามไหล่เขาอย่างช้าๆ ทำให้เกิดการสึกกร่อนลึกลงไปเพราะความหนักของหิมะ พื้นดินที่ รองรับจึงเกิดเป็นร่องลึกและกว้างเพราะมีน้ำหนักของ น้ำแข็งกดทับ ธารน้ำแข็งจะค่อยๆ ครูดบริเวณที่รองรับ จนเกิดหุบเขาตัดขวางรูปตัวยู เมื่อธารน้ำแข็งไหลไปถึงตอนล่างธารน้ำแข็งก็ค่อยๆ แตกออกแล้วก็จะ ละลายกลายเป็นลำธาร ระหว่างทางแวะจอดให้ท่านได้ชมวิวยอดแหลมฟันเรื่อยที่โด่งดังของหมู่บ้านพาสสุอย่างชัดเจน คือ Passu Sar (หรือ Passu SAR, Passu I) หรือเรียกชื่ออีกอย่างว่า ธารน้ำแข็งสีขาว White Passu Glacier ยอดเขาใน Batura Muztagh ส่วนหนึ่งของเทือกเขา Karakoram
ค่ำ บริการการอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเข้าโรงแรมที่พัก Sarai Silk Route Hotel หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านสู่ สะพานฮุซเซน แห่งทะเลสาบบอริท (Hussaini suspension bridge) สะพานแขวนมีอายุนับร้อยปี ถูกจัดให้เป็นสะพานที่น่ากลัวที่สุดในโลก สะพานมีลักษะเป็นสะพานถูกขึงด้วยสลิงพาดด้วยไม้แบบห่างๆ ดังนั้นเวลาข้ามเราจะมองเห็นแม่น้ำที่ไหลอยู่ด้านล่างให้ท่านได้ลองเดินข้ามสะพานแห่งนี้หรือถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก นำท่านสู่ จุดชมวิวยอดเขาราคาโปชิ (Rakaposhi View Point) สัมผัสความสวยงามของเทือกเขาราคาโปชิที่ปกคลุมด้วยหิมะอย่างใกล้ชิด ยอดเขาแห่งนี้มีความสูง 7,790เมตรเหนือระดับน้ำทะเลและถูกจัดอันดับความสูงอยู่ในอันดับที่ 27 ของโลก อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความวามพิสุทธิ์ของธรรมชาติและเทือกเขาแห่งนี้ตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองกิลกิต (Gilgit) เป็นเมืองหลวงตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศปากีสถาน เมืองกิลกิตนั้นเป็นเมืองสำคัญในอดีตเพราะเคยเป็นเมืองที่มีเส้นทางสายไหมตัดผ่านและเป็นเส้นทางเผยแพร่พุทธศาสนาไปยังเมืองต่างๆ ปัจจุบันกลายเป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญ ระหว่างทางแวะถ่ายภาพ จุดชมวิวบรรจบ 3 ขุนเขา (The junction of 3 highest mountain view point) ซึ่งเป็นที่ที่ 3 เทือกเขามาบรรจบกัน ได้แก่ Hindu Kush, Himalaya แล: Karakorams โดยมีแม่น้ำ 2สายมาบรรจบกัน คือแม่น้ำ Gilgit และ แม่น้ำสินธุ
เที่ยง บริการการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านชม พระพุทธรูปคาร์กาห์ (Kargah Buddha) พระพุทธรูปยืนถูกแกะสลักไว้บนหน้าผาในหุบเขาคาร์กาห์ (Kargah Valley) ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 7 พระพุทธรูปมีลักษณะเป็นพระยืน ในลักษณะแบบนูนต่ำ องค์พระมีความสูง 50 ฟุต ปรากฏเด่นอยู่บนหน้าผาหินตั้งชัน ถูกค้นพบในช่วงปี ค.ศ. 1938 – 1939 ห่างจากองค์พระไปประมาณ 400 เมตร ยังค้นพบเจดีย์ 3 องค์ด้วยเช่นกัน ยังมีตำนานที่เกี่ยวกับพระพุทธรูปแกะสลักคาร์กาห์นี้ที่ถูกเล่าขานโดยชาวบ้านในท้องถิ่น ตามตำนานระบุว่าครั้งหนึ่ง บริเวณแถบนี้มียักษ์กินคนตนหนึ่งอาศัยอยู่ เรียกกันว่า “ยักษิณี” (Yakhsni) ชาวบ้านนั้นได้รับความเดือดร้อนจากยักษ์ตนนี้ จึงได้ร้องขอความช่วยเหลือจากนักบวชที่ผ่านทางมาและนักบวชก็ได้ตรึงนางยักษิณีตนนี้ไว้ที่ก้อนหินเพื่อไม่ให้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านอีก
ค่ำ บริการการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร โรงแรมที่พัก
นำท่านเข้าโรงแรมที่พัก Kellisto Hotel หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่ เมืองเบแชม (Besham) ตลอดเส้นทางท่านจะได้ชื่นชมกับความงดงามของธรรมชาติที่ปรากฏบนเส้นทางสายนี้ชมวิวระหว่างสองข้างทาง ระหว่างทางแวะจอดให้ท่านได้ชมวิวยอดเขานังกาพาร์บัต (Nanga Parbat Viewpoint) ยอดเขาสูงอันดับ 9 ของโลก “ยอดเขานังกาพาร์บัต (Nanga Parbat) มีความสูง 8,126 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ชื่อมีความหมายว่า “ยอดเขาเปลือย” แต่คนกลับรู้จักกันในนาม “ยอดเขาเพชฌฆาต” และนำท่านชมวิวยอดเขา Rakapuci
เที่ยง บริการการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
เดินทางต่อสู่ เมืองเบแชม (Besham Qila) เป็นเมืองในเขต Shangla ของ Khyber Pakhtunkhwa ประเทศปากีสถาน Besham ตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำสินธุ (ท้องถิ่นรู้จักกันในชื่อ Abasin) ทำหน้าที่เป็นทางแยกหลักบนทางหลวง Karakoram ข้ามไปยังซินเจียงของจีน นำท่านชมวิถีชีวิตชีวิตท้องถิ่น ชาว Besham ได้เวลาอันควรนำท่านรับประทานอาหารค่ำ
ค่ำ บริการการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร โรงแรมที่พัก
นำท่านเข้าโรงแรมที่พัก Besham Hilton Hotel หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านสู่ เมืองตักศิลา (Taxila) มหานครแห่งปัญญาที่ขึ้นชื่อเรื่องความรุ่งเรืองด้านศิลปะวิทยาการทั้งของพราหมณ์และพุทธ จนเรียกได้ว่าเป็นนครหลวงที่ตั้งโรงเรียนแห่งแรกของโลกและได้ขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกจากยูเนสโก นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์ตักศิลา (Taxila Museum) ซึ่งเปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1928 โดยนำวัตถุโบราณที่ขุดพบในเมืองตักศิลามาจัดแสดงไว้โดยเฉพาะจากการขุดค้นของเซอร์จอห์น มาร์แชล (Sir John Marshall) นักโบราณคดีชาวอังกฤษภายในอัดแน่นด้วย โบราณวัตถุล้ำค่านับแสนชิ้น โดยเฉพาะรูปสลักและรูปปูนปั้นศิลปะคันธาระคือพระพุทธรูปต่างๆ ที่ล้วนมีรูปร่างหน้าตาและเครื่องนุ่งห่ม เหมือนชาวกรีกอันเป็นผลจากการที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชเคยปกครองเมืองนี้มาก่อน
เที่ยง บริการการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
จากนั้นได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่เมืองหลวงอิสลามาบัด นำท่านเดินทางชมมัสยิดไฟซาล (Faisal Mosque) (กรุณาแต่งกายสุภาพผู้หญิงเตรียมผ้าคลุมผมไปด้วย) มัสยิดแห่งนี้เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ. 1987 สร้างโดยกษัตริย์ซาอุดิอาระเบีย King Faisal จึงนำพระนามของพระองค์ใช้เป็นชื่อมัสยิดแห่งนี้ ออกแบบโดยสถาปนิกชาวตุรกี ให้มีลักษณะคล้ายทรงเต็นท์ 8 เหลี่ยมของชาวเบดูอิน ซึ่งมาถึงบริเวณนี้เป็นพวกแรก มัสยิดไฟซาลสามารถจุคนได้ถึง 100,000 คน และบริเวณรอบนอกจุได้อีกกว่า 200,000 คน และมีเสามินาเรท (หอขาน) 4 ต้น ขนาบสี่มุม สูงต้นละ 79 เมตร นับเป็นมัสยิดที่ใหญ่และสวยงามประจำกรุงอิสลามาบัด อิสระช้อปปิ้งเลือกซื้อของฝาก ณ เมืองอิสลามาบัด
ค่ำ บริการการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
20.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินอิสลามาบัด
23.20 น. ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยการบินไทย เที่ยวบินที่ TG350
06.25 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดีภาพและความประทับใจ
Office1: สุพรรณบุรี 443 หมู่ 5 ตำบล หนองมะค่าโม่ง อำเภอ ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี 72180
Office2: นนทบุรี 210/634 ถนนนนทบุรี ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จ.นนทบุรี 11000